You are using an outdated browser. For a faster, safer browsing experience, upgrade for free today.

Apostille คืออะไร และต้องทำอย่างไร? อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ

Apostille คืออะไร และต้องทำอย่างไร? อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ

Apostille คืออะไร?

Apostille คือการรับรองเอกสารจากต่างประเทศรูปแบบหนึ่งที่ทำให้เอกสารนั้นสามารถนำไปใช้ในประเทศอื่นได้ โดยการรับรองนี้จะดำเนินการโดยหน่วยงานราชการของประเทศที่เอกสารถูกออกขึ้นมา (ขอสปอยล์ก่อนว่า ประเทศไทยไม่มีหน่วยงานที่ทำ Apostille รายละเอียดจะอธิบายต่อไปค่ะ)

การรับรอง Apostille คือการยืนยันว่าเอกสารที่นำไปใช้นั้นเป็นเอกสารที่ถูกต้องแท้จริง โดยหน่วยงานที่รับรองจะตรวจสอบเอกสารต้นฉบับแล้วออกตราประทับรับรอง (Apostille) ให้ เมื่อประเทศปลายทางเห็นตรา Apostille ก็สามารถมั่นใจได้ว่าเอกสารนั้นเป็นของแท้ ไม่ได้ปลอมแปลง (ภาษาอังกฤษเรียกว่า authenticity)

กระบวนการ Apostille นั้นสะดวกมาก เพราะเอกสารที่ได้รับการรับรองแล้วสามารถนำไปใช้ได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านการนิติกรณ์เอกสารเพิ่มเติมจากกงสุลหรือสถานทูต เรียกได้ว่ารับรองรอบเดียวจบ ทำให้ช่วยลดความยุ่งยาก ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย

ตัวอย่างเอกสารที่สามารถรับรองแบบ Apostille ได้นั้นจะต้องเป็นเอกสารมหาชน (ก็คือเอกสารที่เจ้าหน้าที่รัฐออกให้ หรือ public documents นั่นเอง) เช่น

  • เอกสารเกี่ยวกับทะเบียนครอบครัว เช่น ทะเบียนสมรส ทะเบียนหย่า
  • เอกสารที่ใช้สำหรับการศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น วุฒิการศึกษา
  • เอกสารสำหรับการทำงานในต่างประเทศ
  • เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมในต่างประเทศ

ประเทศไทยมี Apostille ไหม?

คำตอบสั้นๆ คือ ไม่มีค่ะ

Apostille เกิดจาก อนุสัญญากรุงเฮก ค.ศ. 1961 ว่าด้วยการยกเลิกข้อกำหนดของการนิติกรณ์สำหรับเอกสารมหาชนต่างประเทศ (Hague Convention of 5 October 1961 Abolishing the Requirement of Legalization for Foreign Public Documents) หรือเรียกสั้นๆ ว่า อนุสัญญา Apostille

ประเทศสมาชิกอนุสัญญา Apostille ตกลงร่วมกันว่าจะใช้การรับรอง Apostille แทนการรับรองเอกสารแบบอื่นๆ ประเทศสมาชิกจะยอมรับเอกสารที่มีตรา Apostille โดยไม่ต้องผ่านการนิติกรณ์เอกสารเพิ่มเติม เช่น กงสุลหรือสถานทูต

ตัวอย่างประเทศสมาชิก ได้แก่ นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ ฮ่องกง เดนมาร์ก เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย อินเดีย ญี่ปุ่น และประเทศในยุโรปส่วนใหญ่ รวมทั้งหมดประมาณ 120 ประเทศ

ประเทศไทยไม่ได้เข้าร่วมอนุสัญญา Apostille ด้วยเหตุผลหลักๆ ดังนี้:

  1. ระบบ Notary Public ในประเทศไทยไม่เหมือนประเทศอื่น โดยผู้ที่รับรองเอกสารในประเทศไทยคือ ทนายความผู้มีใบอนุญาต (Notarial Public Services Attorney) ขณะที่ในประเทศสมาชิก Apostille จะเป็นหน่วยงานราชการโดยเฉพาะ
  2. มีข้อจำกัดในการตรวจคำแปลเอกสารจากภาษาไทยเป็นภาษาต่างประเทศของหน่วยงานต่างๆ

ถ้าไม่มี Apostille ในประเทศไทย ต้องทำยังไง?

หากต้องการรับรองเอกสารในระดับเดียวกับ Apostille ในประเทศไทย คุณสามารถใช้วิธีดังนี้:

  • โนตารีจากทนายความผู้มีใบอนุญาต
  • นิติกรณ์เอกสารจากกงสุลหรือสถานทูต 

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของประเทศปลายทางค่ะ ดังนั้น วิธีการเลือกรูปแบบการรับรองเอกสารว่าต้องใช้วิธีไหนก็จะต้องดูข้อกำหนดของประเทศปลายทาง เช่น

  • ประเทศที่ใช้ระบบกฎหมายแบบ Common Law (เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ) อาจยอมรับการรับรองแบบโนตารี
  • ประเทศในยุโรปส่วนใหญ่ มักต้องการการนิติกรณ์เอกสารเพิ่มเติมจากกงสุล

หากยังสงสัย หรืออยากให้ช่วยดำเนินการ

หากคุณไม่แน่ใจว่าเอกสารของคุณต้องผ่านการรับรองแบบไหน สามารถติดต่อเราได้ที่ WPK เราพร้อมให้คำปรึกษาและบริการด้านการรับรองเอกสาร ไม่ว่าจะเป็น โนตารีพบลิก หรือ นิติกรณ์เอกสารจากกงสุลและสถานทูต

ทีมแอดมินของเราพร้อมตอบกลับรวดเร็ว (ตอบไวมาก) ราคาเป็นมิตร และมีทีมทนายผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศคอยดูแลให้ค่ะ

 

ขั้นตอนการขอรับรองเอกสาร

  1.  ติดต่อมาตามช่องทางใดก็ได้ทางด้านล่างได้เลยนะคะ แอดมินจะทำการตอบกลับโดยเร็วที่สุดค่ะ
  2.  ทาง WPK เราจะประเมินราคาและระยะเวลาดำเนินการตามความต้องการโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ หากต้องการเอกสารแบบด่วนพิเศษ หรือให้ออกเป็นใบเสนอราคาก็สามารถแจ้งได้เลยนะคะ
    นอกจากนี้ ทาง WPK เรายึดถือการรักษาความลับของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด จะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลลูกค้าไม่ว่ากรณีใด เว้นแต่ลูกค้าร้องขอหรือได้รับการเรียกร้องตามกฎหมายพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล แต่หากลูกค้าต้องการ ทางเราสามารถเซ็นสัญญารักษาความลับ (Non-disclosure Agreement หรือ NDA) ได้ค่ะ
  3.  ชำระค่าบริการรับรองเอกสาร
  4.  ส่งเอกสารมาที่ WPK (ถ้ามี)
  5.  ทาง WPK ดำเนินการรับรองเอกสารโดยโนตารี
  6.  ส่งเอกสารให้ลูกค้า ภายในระยะเวลาและช่องทางตามที่ลูกค้าแจ้ง

เพราะเราเชื่อว่า เอกสารที่ดีและการดูแลอย่างมืออาชีพ คือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของคุณ

 

Reference: