สำหรับคู่รักชาวไทยและชาวญี่ปุ่นที่วางแผนจะเริ่มต้นชีวิตคู่และจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีจุดเริ่มต้นการดำเนินการจากประเทศไทย บทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ ขั้นตอนการดำเนินการ รวมถึงการเตรียมเอกสารแปลและรับรอง เพื่อให้การจดทะเบียนสมรสเป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของทั้งสองประเทศ
📝 ขั้นตอนที่ 1: ขอเอกสารจากสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
ขั้นตอนแรกคือการที่คู่สมรสฝ่ายญี่ปุ่นต้องติดต่อสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยเพื่อดำเนินการขอ “หนังสือปฏิญาณคุณสมบัติในการสมรส” และ “หนังสือรับรองความเป็นโสด” ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญที่แสดงว่าฝ่ายญี่ปุ่นสามารถสมรสได้ตามกฎหมายญี่ปุ่น
เอกสารของคู่สมรสญี่ปุ่น
- เอกสารแสดงสัญชาติ ตัวตน และ รายได้
- หนังสือเดินทาง (Passport) ฉบับจริง
- สำเนาทะเบียนครอบครัว (Koseki Tohon)
- ฉบับจริงที่ออกให้ภายใน 3 เดือน นับถึงวันที่ยื่นคำร้อง
- ต้องแสดงว่าสถานะปัจจุบันคือ "ยังไม่ได้สมรส" หรือ "สมรสและหย่าแล้ว"
- ฉบับจริงที่ออกให้ภายใน 3 เดือน นับถึงวันที่ยื่นคำร้อง
- ทะเบียนบ้านญี่ปุ่น (จูมินเฮียว)
- หนังสือรับรองการทำงาน (ไซโชคุโชเมโชะ)
- ฉบับจริงที่ออกให้ภายใน 3 เดือน นับถึงวันที่ยื่นคำร้อง
- หนังสือรับรองรายได้ (โชะโทคุโชเมโช)
- ฉบับจริงที่ออกให้ภายใน 3 เดือน นับถึงวันที่ยื่นคำร้อง
- เอกสารสำหรับยื่นคำร้อง ณ สถานทูตญี่ปุ่น
- ใบคำร้องขอหนังสือรับรองสถานภาพสมรส: กรอกตามแบบฟอร์มที่สถานทูตกำหนด
- หนังสือมอบอำนาจ (ในกรณีไม่ได้ไปยื่นเอง)
เอกสารของคู่สมรสไทย
เอกสารแสดงตนของคู่สมรสฝ่ายไทย:
- บัตรประจำตัวประชาชน
- ทะเบียนบ้าน
- หนังสือเดินทาง (ถ้ามี)
- ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (กรณีเคยเปลี่ยนชื่อ-สกุล)
- ใบสำคัญการหย่า (กรณีเคยสมรสมาก่อน)
- สูติบัตรของบุตร (กรณีมีบุตรโดยไม่ได้สมรส)
หลังจากยื่นเอกสารต่อสถานทูตญี่ปุ่นแล้ว
ฝ่ายญี่ปุ่นจะได้รับ “หนังสือปฏิญาณคุณสมบัติในการสมรส” และ “หนังสือรับรองความเป็นโสด” จากสถานทูตญี่ปุ่น ซึ่งออกเป็นภาษาญี่ปุ่น
📑 ขั้นตอนที่ 2: การดำเนินการรับรองเอกสารและแปลเอกสารเพื่อใช้ในประเทศไทย
หลังจากได้รับหนังสือรับรองสถานภาพสมรสจากสถานทูตญี่ปุ่นแล้ว ต้องนำเอกสารดังกล่าวไปดำเนินการแปลเป็นภาษาไทยและรับรองความถูกต้องก่อนนำไปจดทะเบียนที่สำนักงานเขต หรือที่ว่าการอำเภอในประเทศไทย
การแปลและการรับรองเอกสาร
- แปลเอกสาร: นำ “หนังสือปฏิญาณคุณสมบัติในการสมรส” และ “หนังสือรับรองความเป็นโสด” (ฉบับภาษาญี่ปุ่น) ไปแปลเป็น ภาษาไทย โดยผู้แปลที่เชื่อถือได้
- รับรองการแปลและเอกสาร:
- นำต้นฉบับภาษาญี่ปุ่น (หนังสือรับรองสถานภาพสมรส) และฉบับแปลภาษาไทย ไปยื่นที่ กองสัญชาติและนิติกรณ์ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อประทับตรารับรองเอกสาร (Legalization) ซึ่งจะเป็นการยืนยันว่าการแปลเอกสารนั้นถูกต้องและเอกสารสามารถนำไปใช้ในประเทศไทยได้ตามกฎหมาย
💍 ขั้นตอนที่ 3: การจดทะเบียนสมรสที่สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอในประเทศไทย
เมื่อเอกสารของฝ่ายญี่ปุ่นได้รับการแปลและรับรองจากกระทรวงการต่างประเทศของไทยเรียบร้อยแล้ว คู่สมรสทั้งสองฝ่ายสามารถนำเอกสารทั้งหมดไปยื่นขอจดทะเบียนสมรส ณ สำนักงานเขต หรือที่ว่าการอำเภอใดก็ได้ในประเทศไทย
เอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนสมรส
| ฝ่าย | เอกสารที่ต้องใช้ (ต้นฉบับและสำเนา) | ข้อกำหนดเพิ่มเติม |
|---|---|---|
| ฝ่ายญี่ปุ่น | * หนังสือปฏิญาณคุณสมบัติในการสมรส (ฉบับภาษาญี่ปุ่น) | ที่ผ่านการรับรองจากสถานทูตญี่ปุ่นแล้ว |
* หนังสือรับรองความเป็นโสด (ฉบับภาษาญี่ปุ่น) | ที่ผ่านการรับรองจากสถานทูตญี่ปุ่นแล้ว | |
| * คำแปลภาษาไทย ของหนังสือทั้งสอง | ที่ผ่านการรับรองจากกรมการกงสุลแล้ว | |
| * หนังสือเดินทาง (Passport) | ||
| ฝ่ายไทย | * บัตรประจำตัวประชาชน | |
| * ทะเบียนบ้าน | ||
| * หนังสือเดินทาง (Passport) (ถ้ามี) | ||
| ทั้งสองฝ่าย | * พยาน | ควรเตรียมพยาน 2 คน พร้อมบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อลงนามในทะเบียนสมรส |
ผลลัพธ์จากขั้นตอนนี้
นายทะเบียนจะทำการจดทะเบียนสมรสและมอบ "ใบสำคัญการสมรส" (คร. 3) และ "ทะเบียนสมรส" (คร. 2) ให้แก่คู่สมรส
🇯🇵 ขั้นตอนที่ 4: การแจ้งการสมรสไปยังทางการญี่ปุ่น (รายงานการสมรส)
การจดทะเบียนสมรสที่ประเทศไทยมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายไทยแล้ว แต่เพื่อให้อยู่ในความรับรู้และมีผลทางกฎหมายญี่ปุ่น คู่สมรสฝ่ายญี่ปุ่นต้องดำเนินการ "รายงานการสมรส" (Report of Marriage) ไปยังทางการญี่ปุ่นผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่ง
ช่องทางการแจ้งสมรสที่ญี่ปุ่น
- ยื่นต่อสำนักงานเขต/ที่ว่าการอำเภอในประเทศญี่ปุ่นโดยตรง
เอกสารที่ใช้ในการรายงานการสมรส
- ทะเบียนฐานะครอบครัว (Koseki Tohon) ของฝ่ายญี่ปุ่น (ออกให้ภายใน 6 เดือน)
- แบบฟอร์มใบแจ้งการสมรส (Konin Todoke)
- ทะเบียนสมรส (คร. 2) และ ใบสำคัญการสมรส (คร. 3) ของไทย
- คำแปลภาษาญี่ปุ่น ของเอกสารการสมรสของไทย ซึ่งสามารถยื่นแปลและรับรองได้ที่สถานทูตญี่ปุ่น
หมายเหตุ: เอกสารการสมรสของไทย (คร. 2, คร. 3) ต้องได้รับการรับรองจากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศของไทย ก่อน นำไปแปลเป็นภาษาญี่ปุ่น และ ต้องนำเอกสารการสมรสพร้อมคำแปลที่ได้รับรองจากกรมการกงสุลแล้วไปยื่นขอรับรองเอกสาร (Legalization) ก่อนนำไปยื่นที่สำนักงานเขตในญี่ปุ่น
💡 สรุปและข้อแนะนำ
การจดทะเบียนสมรสระหว่างประเทศเป็นกระบวนการที่มีรายละเอียดของเอกสารและขั้นตอนที่ต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบ การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและถูกต้องตามข้อกำหนดของการรับรองเอกสารจากทั้งกรมการกงสุลไทยและสถานทูตญี่ปุ่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด คู่สมรสควรเผื่อเวลาในการดำเนินการแปลและรับรองเอกสารอย่างน้อย 2 ถึง 4 สัปดาห์ และควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดกับสถานทูตญี่ปุ่นและสำนักงานเขตในประเทศไทยอีกครั้งก่อนเริ่มดำเนินการจริง
WPK Notary and Translation Services เรามีบริการครบวงจร เพื่อช่วยให้คุณได้รับเอกสารที่ใช้ต่างประเทศได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และปลอดภัย
✅ รับรองเอกสารโดย ทนายความผู้ได้รับใบอนุญาต Notarial Services Attorney
✅ บริการ ยื่นรับรองเอกสารกับกรมการกงสุล (MOFA) และ สถานทูตต่างประเทศ
✅ บริการ แปลเอกสารโดยนักแปลมืออาชีพ
เพียงส่งเอกสารให้เรา ทีมงานของ WPK จะดูแลทุกขั้นตอนให้คุณ ตั้งแต่รับรองเอกสารไปจนถึงได้รับเอกสารที่พร้อมใช้งานในต่างประเทศ
WPK Notary and Translation Services
บริการโนตารี แปลเอกสาร และรับรองกงสุลครบวงจร
📍 กรุงเทพฯ
📞 ติดต่อเราได้ที่:
📧 wpk.notary@gmail.com
📲 Line: @519clses
📍 Facebook: WPK Notary