หนึ่งในคำถามที่นายจ้าง–HR เสิร์ชหามากที่สุดคือ
“OT ไม่ต้องจ่ายได้ไหม?”
“งานแบบไหนกฎหมายกำหนดว่าไม่ต้องได้โอที?”
คำตอบคือ: กฎหมายแรงงานไทยกำหนดงานบางประเภทว่า ‘ไม่มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลา (OT)’ โดยชอบด้วยกฎหมาย ตาม มาตรา 65 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน และกฎกระทรวง ฉบับที่ 7
บทความนี้จะสรุปอย่างเข้าใจง่าย พร้อมยกคำพิพากษาฎีกา ซึ่งช่วยให้ตีความได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่ากรณีใด “ต้องจ่ายโอที” และกรณีใด “ไม่ต้องจ่ายโอที”
🔍 มาตรา 65: ลูกจ้างกลุ่มใด “ไม่มีสิทธิ์ได้รับโอที” ตามกฎหมาย
มาตรา 65 ระบุว่า ลูกจ้างบางประเภท ไม่มีสิทธิได้รับ
ค่าล่วงเวลา (OT) ตามมาตรา 61, และ
ค่าล่วงเวลาในวันหยุด ตามมาตรา 63
แต่บางประเภท ยังต้องได้ค่าตอบแทนเป็นเงินตามอัตราค่าจ้างชั่วโมงปกติ (ไม่ใช่ 1.5 เท่า)
งานที่กฎหมายระบุว่ามีสิทธิ “ไม่ต้องจ่ายโอที” ได้แก่
(1) ลูกจ้างที่มีอำนาจทำการแทนนายจ้าง
เช่น อนุมัติการให้บำเหน็จ–เลิกจ้าง–รับเข้าทำงาน
📌 แต่ต้อง “มีอำนาจจริง” ไม่ใช่แค่ลงนามเสนอความเห็น
ตัวอย่างจากฎีกา 543/2545
ลูกจ้างเป็นวิศวกรอาวุโส ให้ความเห็นและประเมินผลงานพนักงาน แต่ไม่มีอำนาจอนุมัติให้บำเหน็จหรือเลิกจ้าง →
➡ ไม่เข้าข่าย ม.65(1)
➡ จึงยังมีสิทธิ์ได้รับโอที
(6) งานที่ต้องออกไปทำงานนอกสถานที่ และไม่สามารถกำหนดเวลาแน่นอนได้
เช่น งานที่เวลาเสร็จขึ้นกับหน้างานจริง ไม่สามารถ fix ชั่วโมงชัดเจน
(7) งานเฝ้าดูแลสถานที่หรือทรัพย์สิน (งาน รปภ. / Security Guard)
ถือเป็นหนึ่งในงานที่พบปัญหามากที่สุด
กฎกระทรวง พ.ศ. 2552 (ข้อ 2) กำหนดชัดว่า
งานเฝ้าดูแลสถานที่หรือทรัพย์สินที่เป็นหน้าที่ปกติ →
➡ ไม่มีสิทธิได้รับโอที
ตัวบทอื่นเกี่ยวข้อง
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ม.46
กฎกระทรวงฉบับที่ 7 (พ.ศ.2541)
กฎกระทรวงฉบับที่ 13 (พ.ศ.2543)
แต่จะไม่ถูกใช้เพื่อให้สิทธิ์โอทีในงานเฝ้าทรัพย์ หากกฎกระทรวงเฉพาะ (ปี 2552) กำหนดไว้แล้ว
⚖️ คดีตัวอย่างจากศาลฎีกา: งานแบบไหน “ไม่ต้องได้โอที” ตามกฎหมาย
1) ฎีกา 352/2561 — รปภ. ไม่มีสิทธิ์ได้โอที (จ่ายเฉพาะอัตราค่าจ้างปกติ)
ข้อเท็จจริง:
พนักงานรักษาความปลอดภัยทำงานวันละ 12 ชม.
นายจ้างจ่าย
8 ชั่วโมงแรก = ค่าจ้างวันละ 300 บาท
4 ชั่วโมงถัดมา = จ่ายชั่วโมงละ 37.50 บาท (อัตราปกติ)
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า
งานเฝ้าทรัพย์เข้าข่าย มาตรา 65 (7) โดยมี กฎกระทรวง พ.ศ.2552 รองรับ
ลูกจ้าง ไม่มีสิทธิ์ได้โอที 1.5 เท่า
นายจ้างจ่ายถูกต้องแล้ว
➡ สรุป: งาน รปภ. ไม่มีสิทธิ์ได้โอที แต่ต้องได้ค่าตอบแทนตามอัตราปกติ
2) ฎีกา 543/2545 — “ตำแหน่งใหญ่ แต่ไม่มีอำนาจจริง” ยังต้องได้โอที
ลูกจ้างตำแหน่งวิศวกรอาวุโส
ให้ความเห็นเรื่องการลาออก
ประเมินผลงานพนักงาน
แต่ ไม่ได้มีอำนาจอนุมัติแทนนายจ้างจริงจัง
ศาลวินิจฉัยว่า
➡ ไม่เข้าข่าย ม.65(1)
➡ ต้องได้โอที
3) ฎีกา 2571/2527 — การเขียนใบลาออกในวันเกษียณ = การเลิกจ้าง
แม้ดูไม่เกี่ยวกับโอทีโดยตรง แต่ตัวคดีนี้แสดงให้เห็นว่า
“เจตนาในการออกเอกสาร” ต้องตีความตามสภาพการจ้างไม่ใช่ตัวหนังสือ
ศาลวินิจฉัยว่า
ลูกจ้างทำงานครบ 30 ปี
นายจ้างมีระเบียบให้เขียนใบลาออกในวันเกษียณ
➡ การเขียนใบลาออกนั้น ไม่ใช่การลาออกจริง แต่เป็น “การเลิกจ้าง”
➡ นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชย
เหตุผลที่นำมาแทรกในบทความ:
เพราะการตีความสถานะการจ้างงานมีผลต่อ “สิทธิประโยชน์ที่ลูกจ้างควรได้รับ” เช่น โอที, ค่าชดเชย, ค่าบอกกล่าวล่วงหน้า ฯลฯ
และข้อเท็จจริงทางปฏิบัติสำคัญกว่า “กระดาษที่ลงชื่อ"
⚠️ ความเข้าใจผิดที่ทำให้นายจ้างถูกเรียกเงินย้อนหลัง (กรณีจริงที่พบบ่อย)
คิดว่าตำแหน่ง Manager/หัวหน้าทีม = ไม่ต้องได้โอที
➜ ผิด! ต้องมีอำนาจสั่งเลิกจ้าง/ให้บำเหน็จได้เอง
รปภ. ทำงาน 12 ชั่วโมง = ต้องได้โอที 1.5 เท่า
➜ ไม่จริงเสมอ ต้องดูว่าเข้าข่ายงานเฝ้าทรัพย์ปกติหรือไม่
งานนอกสถานที่ทั้งหมด = ไม่ต้องจ่ายโอที
➜ ผิด ต้องพิสูจน์ว่า “ไม่สามารถกำหนดเวลาทำงานได้จริง”
ใช้กฎกระทรวงผิดฉบับ → เสี่ยงโดนเรียกย้อนหลังหลายแสน–หลายล้าน
📌 บทสรุปเข้าใจง่าย
| ประเภทงาน | ต้องจ่ายโอทีไหม? | อ้างอิงกฎหมาย |
|---|---|---|
| อำนาจแทนนายจ้างจริง | ❌ ไม่ต้องจ่าย | ม.65(1) |
| วิศวกร/หัวหน้า ที่ ไม่มีอำนาจจริง | ✔ ต้องจ่าย | ฎีกา 543/2545 |
| รปภ. เฝ้าทรัพย์แบบหน้าที่ปกติ | ❌ ไม่ต้องจ่ายโอที (แต่ต้องจ่ายตามชั่วโมงปกติ) | ม.65(7), กฎกระทรวง 2552 |
| งานออกนอกสถานที่ที่ไม่ fix เวลา | ❌ ไม่ต้องจ่าย | ม.65(6) |
| งานทั่วไป พนักงานออฟฟิศทั่วไป | ✔ ต้องจ่าย | ม.61–63 |
สำคัญมาก — “ไม่มีสิทธิ์ได้โอที” ไม่ได้แปลว่า “ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเลย”
หลายคนเข้าใจผิดว่าถ้าเข้าข่ายมาตรา 65 แล้ว “นายจ้างไม่ต้องจ่ายอะไรเลย” ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดและอันตรายมาก เพราะ กฎหมายกำหนดชัดเจนว่า
✔ ลูกจ้างบางประเภท “ไม่มีสิทธิ์ได้โอทีในอัตรา 1.5 เท่า”
แต่
✔ นายจ้าง ยังต้องจ่ายค่าตอบแทนตามอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงปกติ สำหรับชั่วโมงที่ลูกจ้างทำงานเกินจากเวลาทำงานปกติตัวอย่างเช่นกรณี รปภ. / งานเฝ้าทรัพย์สิน ตามมาตรา 65(7)
หากทำงาน 12 ชั่วโมงต่อวัน
นายจ้าง ห้าม ไม่จ่ายอะไรเลย
นายจ้างต้องจ่าย ค่าชั่วโมงปกติครบทุกชั่วโมงที่ทำงาน
ดังนั้น แม้เป็นงานที่มาตรา 65 กำหนดว่า “ไม่มีสิทธิ์โอที”
ก็ยังต้องจ่าย “ค่าตอบแทนตามจำนวนชั่วโมงที่ทำ” อยู่ดีหยุดความเข้าใจผิด: ไม่ต้องจ่าย โอที, แต่ไม่ได้แปลว่าไม่ต้องจ่ายเงินเลย
เพื่อป้องกันผลเสียต่อลูกจ้าง ศาลเองก็ย้ำในหลายคดีว่า
แม้ไม่มีสิทธิ์โอที แต่ การทำงานเกิน 8 ชั่วโมง = ต้องมีค่าตอบแทนเสมอ
เช่น
ฎีกา 352/2561 ⇒ ระบุชัดว่า
รปภ. ไม่มีสิทธิ์โอที
แต่ต้องได้ค่าตอบแทนตามชั่วโมงปกติ
นายจ้างต้องจ่ายครบทุกชั่วโมง
🔍 คำเตือนสำหรับนายจ้าง–HR
เพื่อไม่ให้บทความทำให้เกิดความเข้าใจผิด เราเพิ่มข้อความนี้:
❗ นายจ้างต้องระวังให้มาก:
คำว่า “ไม่ต้องจ่ายโอที” ในกฎหมายหมายถึง
งดอัตรา 1.5 เท่าได้
ไม่ใช่
งดจ่ายค่าจ้างชั่วโมงเกินเวลาได้หากนายจ้างตีความผิด ศาลแรงงานถือเป็น “ไม่จ่ายค่าจ้าง” และอาจถูกเรียกย้อนหลังรวมดอกเบี้ยได้
🛠 ตัวอย่างสรุปแบบง่าย ๆ
เพื่อให้ผู้อ่านจำได้ชัดเจนและไม่หลงประเด็น:
| สถานการณ์ | ผลทางกฎหมาย |
|---|---|
| ทำงานเกิน 8 ชั่วโมง (ทั่วไป) | ต้องจ่ายโอที 1.5 เท่า |
| ทำงานเกิน 8 ชั่วโมง (งานตามมาตรา 65 เช่น รปภ.) | ❌ ไม่ต้องจ่าย 1.5 เท่า ✔ ต้องจ่ายค่าตอบแทนตาม “อัตราค่าจ้างปกติ” |
| ไม่จ่ายเลย เพราะคิดว่า “งานนี้ไม่ต้องได้โอที” | ผิดกฎหมาย 100% |
💼 ต้องการตรวจสอบว่างานของคุณ “ต้องได้โอทีหรือไม่”?
เรื่องโอทีเป็น หนึ่งในสาเหตุข้อพิพาทแรงงานสูงสุด ของบริษัทในไทย
แก้ผิดหนึ่งข้อ อาจโดนเรียกย้อนหลังเป็นหลักแสนถึงหลักล้าน
เรารับบริการ
ตรวจสิทธิ์โอทีตามลักษณะงาน
เขียนสัญญาจ้าง/แก้สัญญาจ้าง
ตรวจข้อบังคับ–นโยบาย HR
ให้คำปรึกษาคดีแรงงาน
ติดต่อได้เลย
📧 wpk.notary@gmail.com
📲 Line: @wpknotary